อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าสภาวะของเศรษฐกิจโลกต่างก็ยังคงมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลาไม่ว่าจะเกิดจากสงครามทางการค้าของสหรัฐและจีนหรือว่าจะเป็นการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อทั่วโลกแต่สำหรับเศรษฐกิจของไทยที่ยิ่งแย่ลงไปอีกแต่โดยพื้นฐานก็ยังคงมีความแข็งแกร่งอยู่เพราะว่ายังมีเงินสำรองต่างประเทศต่อหนี้สินต่างประเทศมากถึง 1.2 เท่าซึ่งก็ยังอยู่ในอันดับต้น ๆ ของแถบเอเชีย หลังจากที่ทาง Fitch และ Moodyได้มีการปรับมุมมองของเศรษฐกิจไทยให้เป็น positive แล้วซึ่งก็คาดกันว่าไทยจะสามารถปรับอันดับเครดิตเรทติ้งเพิ่มขึ้นได้
ทางด้านของรองกรรมการ ผจก.บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด ได้กล่าวว่า ไทยควรที่จะจะมีเรทติ้งอยู่ที่ A- ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ BBB+ แต่ด้วยฐานที่แกร่งและทางบริษัทได้มีการจัดอันดับเครดิตขึ้นมาจึงทำให้ต่างชาติปรับมุมมองมาเป็น positive ที่มองดูแล้วก็น่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่ไทยจะได้ปรับเครดิตในต้นปีหน้าโดยคาดว่าไทยน่าจะได้ปรับเครดิตเพิ่มขึ้นไปอีกแต่ด้วยอันดับเครดิคเรทติ้งทีเพิ่มขึ้นก็น่าจะส่งผลที่เป็นบวกต่อประเทศได้หลากหลายทางด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นการระดมทุนของไทยและการออกตราสารหนี้ที่มองว่าจะมีต้นทุนที่ลดลงและยังรวมไปถึงเรื่องของการกระดมทุนกลุ่ม ธ.ไทยพาณิชย์ขนาดใหญ่ก็จะส่งผลให้มีต้นทุนที่ดียิ่งขึ้นเช่นเดียวกันรวมไปถึงกลุ่ม PTT ก็จะได้รับผลที่เป็นบวกตามไปด้วย เรื่องของตลาดหุ้นที่จะกลายเป็นว่ามีเม็ดเงินที่มากมายจากต่างชาติเข้ามาเพิ่มมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมนั่นเอง
ภาพ ข้อมูล : wealthythai.
